วันศุกร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2563

งานที่"เลี้ยงชีวิต" กับงานที่"สร้างชีวิต"

งานที่"เลี้ยงชีวิต" กับงานที่"สร้างชีวิต" 
อ่านดูเหมืิอนคล้ายกันนะครับ​ แต่ความจริงแล้ว
มันมีมุมที่ต่างกันพอสมควร​ ผมจะเล่าให้ฟังสักนิด
เผื่อได้ข้อคิดอะไรสักอย่างครับ

งานเลี้ยงชีวิตนี่... พูดง่าย​ ๆ​ ว่าสำคัญมาก
ถ้าไม่ทำก็คืออดตายครับ​ ถ้าโสดก็อดตายคนเดียว
แต่ถ้ามีครอบครัวหรือมีภาระเป็นสัตว์เลี้ยง​ด้วยล่ะ
แบบนี้ไม่สวยแน่ครับ

คนส่วนใหญ่บนโลกนี้ก็ทำงานเลี้ยงชีวิตนี่แหล่ะ

ส่วนงานสร้างชีวิตนี่สิครับ... มันเป็นอีกระดับ
ที่คนทำงานอย่างเราต้องพยายามสร้างให้ได้
เพื่อเป็นเครื่องจักรผลิตเงิน​ มีกินมีใช้แม้วันไหน
หยุดงานแต่ก็ยังมีเงินเข้า

ทุกวันนี้เราตื่นตัวกันมากขึ้นกับการสร้างรายรับ
ให้ได้หลายช่องทาง​ จึงไม่แปลกที่ในหัวของ
หลายคนไม่สามารถหยุดคิดได้เลย
แม้จะหมดเวลา​ของ​งานประจำไปแล้วแต่ก็ยัง
ทำงานเสริมกันให้วุ่นไปหมด​ 

คนที่เป็นมืออาชีพ​จริงต้องบริหารให้ดี
ไม่ให้งานเสริมมาเบียดเบียนงานประจำหรือ
ทำให้ประสิทธิภาพ​การทำงานลดลง

บางคนขายของออนไลน์​ดีมากครับ
ตอบ​ inbox​ ลูกค้าแบบไม่ต้องหลับต้องนอน
สุดท้ายไปนั่งสัปหงก​ หัวโขกโต๊ะทั้งวัน
ผลงานมีแต่แย่ลง​ จนเพื่อนร่วมงานส่ายหน้า

ทุกคนก็อยากทำงานที่สร้างชีวิตกันทั้งนั้น
แต่ก็ต้องทำงาน​ หาเงินและประสบการณ์​จาก
งานเลี้ยงชีวิตเพื่อไม่ให้ตัวเองขัดสน​ หรือสร้างหนี้

วันนี้หลายคนอาจมองไม่เห็นงานที่สร้างชีวิต
เพราะยังไม่รู้ว่างานที่ใช่​ คืออะไร​ หรือชั่วโมง​บินต่ำ
จนไม่รู้​ว่าจะพัฒนาต่อยอดความรู้เดิมไปสู่ไอเดีย
ใหม่​ ๆ​ ได้อย่างไร

สิ่งที่ต้องทำคืออย่าหยุดคิด​ อย่าหยุดทำเป็นอันขาด
ยึดไว้ซึ่งเป้าหมาย​ ส่วนวิธีการนั้นให้ลองผิดลองถูก
โดยไม่หวั่นไหวต่ออุปสรรค

ถ้านึกอะไรไม่ออก​ ให้นึกถึงเจ้าแมงมุมนะครับ
มันอุตสาหะในการสร้างใย​ เพราะมันรู้ดีว่าเมื่อ
เครือข่ายใยแมงมุม​ของมันแล้วเสร็จ​เมื่อไหร่
มันก็แค่นอนตีพุง​ รอเหยื่อเข้ามาให้สวาปาม

เหนื่อยชั่วคราว​ สบายชั่วโคตร
แบบนี้เรียกได้ว่ามีทั้งอุดมการณ์​แถมยังอุดมกิน
ไม่เจริญ​รุ่งเรือง​ก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้วครับ

ขอบคุณ​ครับ
ธน​บรรณ​  สัมมาชีพ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น