วันพุธที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2563

การเรียนรู้แบบรอบรู้

การเรียนรู้แบบรอบรู้ (Mastery Learning) คือ กลยุทธ์และปรัชญาการศึกษาที่ถูกนำเสนอขึ้นอย่างเป็นทางการโดย เบนจามิน บลูม นักจิตวิทยาการศึกษาชาวสหรัฐอเมริกา เมื่อปี ค.ศ. 1968 โดยพัฒนามาจากรูปแบบการเรียนรู้ของ จอห์น บี คาร์โรล (John B. Carroll) ซึ่งมีพื้นฐานความเชื่อที่ว่า ผู้เรียนทุกคนสามารถที่จะเรียนรู้ได้ตามวัตถุประสงค์ หากผู้เรียนได้รับเวลาที่จะเรียนรู้เรื่องนั้น ๆ อย่างเพียงพอตามความต้องการของแต่ละบุคคล ก่อนที่บลูมจะเพิ่มเติมว่า ผู้เรียนที่แม้จะมีความสามารถทางสติปัญญาหรือความถนัดที่แตกต่างกัน ก็มีความสามารถที่จะบรรลุวัตถุประสงค์การเรียนรู้ได้เช่นเดียวกัน หากผู้เรียนได้รับโอกาสในการเรียนรู้และคุณภาพการสอนที่เหมาะสมตามความต้องการของแต่ละบุคคล

 

ซึ่งความหมายของการเรียนรู้แบบรอบรู้นั้น คือกระบวนการในการดำเนินการให้ผู้เรียนทุกคน ซึ่งมีความสามารถและสติปัญญาที่แตกต่างกัน สามารถเกิดการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ได้เช่นเดียวกัน ผ่านการวางแผนการเรียนรู้เฉพาะสำหรับผู้เรียนแต่ละคน หรือแต่ละกลุ่มที่มีความต้องการเหมือนกัน

ซึ่งองค์ประกอบสำคัญในการเรียนรู้แบบรอบรู้นั้น ประกอบด้วย

1. มีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนและพิสูจน์ได้
2. มีการกำหนดเกณฑ์ความรอบรู้ที่ชัดเจน คือทราบว่าความรอบรู้ที่นักเรียนต้องไปถึงนั้น คืออะไรและอยู่จุดใด
3. มีกระบวนการที่แสดงให้ชัดเจนถึงการเรียนรู้ของนักเรียนอย่างชัดเจน มีความยืดหยุ่น สามารถปรับให้เข้ากับนักเรียนได้ทุกคนอย่างเหมาะสมและเท่าเทียมกัน
4. มีกระบวนการที่ชัดเจนสำหรับครูผู้สอนในการประเมินความรอบรู้ ซึ่งยืดหยุ่นได้ความความเหมาะสมของนักเรียนแต่ละคน
5. มีการจัดระเบียบและแสดงผลข้อมูลความก้าวหน้าในความรอบรู้ของนักเรียน และพร้อมในการนำเสนอกับผู้ปกครองและผู้บริหารได้ตลอดเวลา

 

ซึ่งลักษณะสำคัญของการจัดการเรียนรู้แบบเชี่ยวชาญนั้น สามารถดำเนินการตามขั้นตอนได้ดังนี้

- ผู้สอนกำหนดวัตถุประสงค์ในเนื้อหาที่สอนอย่างละเอียด ซึ่งต้องบ่งบอกถึงสิ่งสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าผู้เรียนทำได้และเกิดการเรียนรู้เรื่องนั้นอย่างแท้จริง และต้องจัดเรียงจากสิ่งที่ง่ายไปสู่สิ่งที่ยากและซับซ้อน
- ผู้สอนวางแผนการเรียนรู้สำหรับผู้เรียนแต่ละคนโดยคำนึงถึงความถนัดและความแตกต่างกันของแต่ละบุคคล ซึ่งจำเป็นต้องใช้สื่อการเรียนรู้ วิธีสอน หรือเวลาที่แตกต่างกัน เพื่อช่วยให้ผู้เรียนบรรลุวัตถุประสงค์
- ผู้สอนแจ้งให้ผู้เรียนเข้าใจในจุดมุ่งหมาย วิธีการเรียน ระเบียบกติกา รวมไปถึงข้อตกลงต่าง ๆ ในการเรียนให้ชัดเจน
- ผู้เรียนมีการดำเนินการเรียนรู้ตามแผนการเรียนที่ได้วางไว้ และมีการประเมินการเรียนตาม วัตถุประสงค์แต่ละข้อ โดยผู้สอนคอยดูแลและให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคล
- ส่งเสริมให้ผู้เรียนบรรลุวัตถุประสงค์ไปทีละขั้น หากผู้เรียนไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ ผู้สอนต้องมีการวินิจฉัยปัญหาและวิเคราะห์ความต้องการของผู้เรียน และจัดโปรแกรมการสอนซ่อมเสริมอย่างเป็นระบบ ก่อนที่จะประเมินใหม่อีกครั้ง
- ผู้เรียนดำเนินการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดจนบรรลุครบทุกวัตถุประสงค์ ซึ่งผู้เรียนอาจใช้เวลามากน้อยต่างกันตามความถนัดและความต้องการของผู้เรียนแต่ละคน
- ผู้สอนมีการติดตามความก้าวหน้าในการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ของผู้เรียน โดยเก็บข้อมูลการเรียนรู้ของผู้เรียนเป็นรายบุคคล เพื่อให้สามารถนำข้อมูลมาใช้ในการวางแผนการเรียนรู้ให้แก่ผู้เรียนในคราวต่อไป

 

จากองค์ประกอบและลักษณะสำคัญจะเห็นได้ว่า กลยุทธ์และปรัชญาการศึกษานี้ เน้นให้เกิดการเรียนรู้ที่หลากหลายสำหรับผู้เรียน เพื่อให้สอดคล้องกับความสามารถและสติปัญญาของผู้เรียน และช่วยให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ตามวัตถุประสงค์หลักที่ได้ตั้งไว้  ซึ่งเป็นการวางระบบที่ส่งเสริมการศึกษาให้กับผู้เรียนทุกคนอย่างเท่าเทียมกันโดยตอบสนองต่อความต้องการของแต่ละบุคคล

 

การเรียนรู้แบบรอบรู้ นับได้ว่าเป็นรากฐานของระบบการเรียนการสอนส่วนบุคคล Personalized System of Instruction (PSI) ซึ่งเป็นการจัดการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล เพื่อให้พวกเขาสามารถเรียนรู้ได้ตามวัตถุประสงค์อย่างเหมาะสม โดยเป็นไปตามความต้องการและศักยภาพของตัวเอง ซึ่งจะทำให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้อย่างมีความสุข โดยมีความกดดันที่น้อยกว่า แต่อาจจำเป็นต้องใช้เวลาที่มากขึ้นกว่าปกติ

 

ปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการส่งเสริมกลยุทธ์ทางการศึกษารูปแบบนี้ โดยมีการใช้เทคโนโลยีในการวิเคราะห์และเก็บข้อมูลการเรียนรู้ของผู้เรียนแบบออนไลน์ทำให้ผู้เกี่ยวข้องสามารถเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ได้รวดเร็วและทราบถึงข้อมูลสำคัญ เพื่อให้สามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์ ส่งเสริมและแก้ไขปัญหาในการเรียนรู้ของผู้เรียนได้อย่างเหมาะสม ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับการศึกษารูปแบบนี้

 

เรียบเรียงโดย : นรรัชต์  ฝันเชียร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น